หากพลาดพลั้งตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในการหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์หรืออาชญากรรมทางเทคโนโลยี เช่น การหลอกลวงเพื่อโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว หรือที่เรียกกันว่า ฟิชชิ่ง (Phishing) บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ ขอแนะนำให้ท่านดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการติดตามทรัพย์สินของท่านกลับคืนมา
1. เก็บรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
เก็บข้อมูลและหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี อาทิ
ข้อมูลของผู้กระทำความผิด เช่น ชื่อ-นามสกุล รูปถ่าย หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล หรือข้อมูลอื่น ๆ ของผู้กระทำความผิด
เลขที่กระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้กระทำความผิด
รายละเอียดกระบวนการ วิธีการ และขั้นตอนที่ผู้กระทำความผิดได้ทำการหลอกลวงและเอาไปซึ่งทรัพย์สินของท่านหรือการก่ออาชญากรรมเทคโนโลยี
หลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
2. แจ้งเจ้าหน้าที่ Bitkub Support โดยเร็ว
กรณีที่ท่านเป็นลูกค้าของบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ โปรดติดต่อ Bitkub Support เพื่อระงับการใช้งานบัญชีของท่าน หรือระงับการทำธุรกรรมถอนสินทรัพย์ดิจิทัลในทันที ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สินของท่านเอง
นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ในการติดตามเอาทรัพย์สิน บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ขอให้ท่านโปรดดำเนินการดังต่อไปนี้
ให้ข้อมูลที่ได้เก็บรวบรวมเกี่ยวกับการกระทำผิด เช่น ข้อมูลของผู้กระทำความผิด และเลขที่กระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้กระทำความผิด (หากมี) ต่อ Bitkub Support
รายละเอียดกระบวนการ วิธีการ และขั้นตอนที่ผู้กระทำความผิดได้ทำการหลอกลวงและเอาไปซึ่งทรัพย์สินของท่านหรือการก่ออาชญากรรมเทคโนโลยี
ให้ความร่วมมือตามที่ Bitkub Support แนะนำ ซึ่งรวมถึงการแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในเวลา 72 ชั่วโมง โดยในระหว่างนี้ Bitkub Support จะระงับธุรกรรมหรือกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลต้องสงสัยบนศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ตามที่ท่านให้ข้อมูล (หากมี) เป็นระยะเวลา 72 ชั่วโมงนับตั้งแต่ที่ท่านได้ทำการติดต่อ Bitkub Support
3. แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใน 72 ชั่วโมง
โปรดแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตามคำแนะนำของ Bitkub Support ให้เร็วที่สุด หรือภายใน 72 ชั่วโมง โดยท่านสามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ผ่านช่องทางต่อไปนี้
- ช่องทางออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่ https://www.thaipoliceonline.go.th/
วิธีการใช้งาน
เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.thaipoliceonline.go.th/
กด “แจ้งความออนไลน์”
ลงทะเบียนผู้ใช้งาน จากนั้นยืนยันตัวตนด้วย OTP ผ่านอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียน
เข้าสู่ระบบอีกครั้ง เพื่อเริ่มแจ้งความออนไลน์
ท่านสามารถศึกษาคู่มือการใช้งาน ระบบรับแจ้งความออนไลน์ได้ ที่นี่
- แจ้งความที่สถานีตำรวจตามท้องที่ที่มีเขตอำนาจ โดยแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขอแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีอาญาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด พร้อมให้ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องและพยานหลักฐานที่ได้มีการรวบรวมไว้ (การลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเป็นการแจ้งให้พนักงานสอบสวนจดข้อความลงไปในรายงานประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานเท่านั้น และไม่ถือว่าเป็นการร้องทุกข์เพื่อขอให้ดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำผิดแต่อย่างใด)
เมื่อแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โปรดติดต่อมายัง Bitkub Support เพื่อส่งมอบหลักฐานการแจ้งความร้องทุกข์เพื่อเป็นข้อมูลต่อไป
นอกจากนี้ ท่านสามารถขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกพยานเอกสารและอายัดได้ โดยในการเรียกพยานเอกสารสามารถระบุข้อมูลดังต่อไปนี้
ข้อมูล KYC ของผู้กระทำความผิด
ข้อมูลประวัติการทําธุรกรรมของผู้กระทำความผิด (โปรดระบุช่วงวันที่ของข้อมูล เช่น 1 มกราคม 2568 ถึง 31 มกราคม 2568)
ยอดทรัพย์สินคงเหลือในบัญชีผู้ใช้งาน
เลขที่กระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้กระทำความผิด
พร้อมกันนี้ ในหมายเดียวกัน ท่านสามารถขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอายัดบัญชีผู้ใช้งานและกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้กระทำผิดได้ โดยระบุข้อความให้บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์อายัดบัญชีผู้ใช้งานและกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้กระทำผิดได้ (ไม่ใช่การอายัดบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ของบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ หรือบัญชีบิทคับเพื่อลูกค้า) ทั้งนี้ ท่านอาจพิจารณาตัวอย่างหมายเรียกพยานหลักฐานได้ ที่นี่
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายแล้ว สามารถให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งหมายมายังบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ได้ 2 ช่องทางดังนี้
ส่งทางอีเมล มายัง support@bitkub.com หรือ compliance@bitkub.com
ส่งทางไปรษณีย์ มายังที่อยู่ด้านล่าง ผ่านบริการของ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จํากัด เท่านั้น
บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด
เลขที่ 2525 ชั้น 11 ตึก FYI Center (อาคาร 2) ถนนพระรามที่ 4
แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 (สำนักงานใหญ่)
หากต้องการคำแนะนำหรือสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแจ้งความ หรือขั้นตอนการดำเนินคดี ท่านสามารถติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ที่:
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.)
โทร 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง
Facebook Page: ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท.
ข้อควรระวัง
หากท่านได้ให้ข้อมูลส่วนตัวกับผู้กระทำความผิด เช่น บัญชีผู้ใช้งาน หรือรหัสผ่าน ควรดำเนินการเปลี่ยนรหัสผ่านทันที และตรวจสอบบัญชีผู้ใช้งานของท่านว่ามีการใช้งานที่ผิดปกติหรือไม่
ข้อมูลอ้างอิง
ธนาคารแห่งประเทศไทย
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
เยี่ยมเลย!
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ
ขออภัยที่เราช่วยเหลือไม่ได้!
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ
ส่งข้อเสนอแนะแล้ว
เราขอขอบคุณในความพยายามของคุณ และจะพยายามแก้ไขบทความดังกล่าว