ทําความรู้จัก Redstone บล็อกเชนแบบ Oracle ที่สามารถทำงานได้แบบ Cross-Chain รองรับมากกว่า 70 เชน

แก้ไขเมื่อ วันอังคาร, 23 กันยายน เมื่อ 5:45 PM


ในโลกอันซับซ้อนของการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ความท้าทายสำคัญยังคงอยู่ที่การนำข้อมูลจากโลกแห่งความเป็นจริงมาสู่บล็อกเชนอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดย RedStone (RED) เครือข่าย Oracle ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงในการแก้ปัญหา "Oracle Problem" นี้โดยเฉพาะ ด้วยแนวทางแบบโมดูลาร์ (Modular) ที่แปลกใหม่ โดย RedStone วางตำแหน่งตัวเองในฐานะโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญสำหรับ dApp ยุคถัดไป บทความนี้จะเจาะลึกถึงเทคโนโลยีหลัก คุณสมบัติเด่น ของ RedStone สำหรับผู้ที่หลงใหลในโลกคริปโตโดยเฉพาะ

Redstone (RED) คืออะไร?

หัวใจหลักของ RedStone คือการเป็นเครือข่าย Oracle ที่ให้บริการป้อนข้อมูล (Data Feeds) แก่เครือข่ายบล็อกเชนกว่า 50 แห่ง ซึ่งรวมถึงการเป็นบล็อกเชนที่เข้ากันได้กับ EVM และบล็อกเชนที่ไม่ใช่ EVM สิ่งที่ทำให้ RedStone แตกต่างคือสถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์ที่ล้ำสมัย แทนที่จะส่งข้อมูลเข้าสู่บล็อกเชนอย่างต่อเนื่องเหมือน Oracle แบบดั้งเดิมซึ่งมีค่าแก๊สสูงแต่ RedStone จะจัดเก็บข้อมูลไว้บนโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์อย่าง Arweave และจะส่งข้อมูลนั้นมายัง On-chain ก็ต่อเมื่อ dApp ร้องขอเท่านั้น


สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ผ่านโมเดลการส่งข้อมูลสามรูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งมอบความยืดหยุ่นที่เหนือชั้นให้กับนักพัฒนาหลายหลายได้แก่

  • RedStone Core (Pull Model): โมเดลแบบออนดีมานด์นี้ช่วยให้ dApp สามารถ "ดึง" ข้อมูลจากที่จัดเก็บนอกเชน (Off-Chain) และรวมไว้ในธุรกรรมเดียวได้ ซึ่งช่วยลดต้นทุนได้อย่างมาก
  • RedStone Classic (Push Model): สำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการข้อมูลที่พร้อมใช้งานตลอดเวลา โมเดลนี้จะ "ผลัก" ข้อมูลไปยังบล็อกเชนตามช่วงเวลาที่กำหนด
  • RedStone X (Hybrid Model): เป็นการผสมผสานข้อดีของทั้งสองโมเดลเข้าด้วยกัน เพื่อนำเสนอโซลูชันการส่งข้อมูลที่ยืดหยุ่นสำหรับกรณีการใช้งานที่หลากหลาย

จุดเด่นของ Redstone มีอะไรบ้าง?

RedStone โดดเด่นด้วยการทำงานแบบ Multi-Chain ที่นำมาสู่คุณสมบัติโดดเด่นอื่นๆ อีกหลายประการสำหรับนักพัฒนา ได้แก่

  • การประหยัดค่าแก๊ส (Gas Optimization): โมเดลการส่งข้อมูลแบบออนดีมานด์ช่วยประหยัดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมได้อย่างมหาศาล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับ dApp ที่ทำงานบนเครือข่ายที่มีการใช้งานสูง
  • การทำงานร่วมกันข้ามเชน (Cross-Chain Interoperability): การออกแบบแบบโมดูลาร์ของ RedStone ช่วยให้สามารถทำงานร่วมกับระบบนิเวศบล็อกเชนที่หลากหลายได้อย่างราบรื่น โดยไม่จำเป็นต้องปรับใช้โค้ดแบบกำหนดเองสำหรับแต่ละเชน
  • รองรับสินทรัพย์เฉพาะกลุ่ม (Support for Niche Assets): RedStone มีความโดดเด่นในการให้บริการราคาที่น่าเชื่อถือสำหรับสินทรัพย์ประเภท Long-tail และสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนได้ เช่น Liquid Staking Tokens (LSTs) และ Liquid Restaking Tokens (LRTs) ซึ่งมักไม่ได้รับการสนับสนุนจาก Oracle แบบดั้งเดิม
  • ความปลอดภัยขั้นสูง (Enhanced Security): ความสมบูรณ์ของข้อมูลได้รับการรับรองผ่านการลงนามด้วยการเข้ารหัสโดยเครือข่ายผู้ให้บริการข้อมูล และยังมีความปลอดภัยเพิ่มเติมจากการผสานรวมกับ Actively Validated Service (AVS) ของ EigenLayer ซึ่งเป็นการยืมความปลอดภัยทางเศรษฐกิจจาก Ether ที่ถูก Stake ไว้


ภาพแสดงลักษณะของการส่งข้อมูลมายังบล็อกเชนของ RedStone ที่มา RedStone Document


โดย RedStone ได้รับข้อมูลราคาจากแหล่งข้อมูลกว่า 150 แห่ง ซึ่งรวมถึงตลาดแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ (Centralized Exchanges) และตลาดแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Exchanges) อย่าง Uniswap และผู้รวบรวมข้อมูล (Aggregators) เช่น CoinMarketCap จากนั้นข้อมูลเหล่านี้จะถูกรวบรวมโดยโหนด (Nodes) อิสระที่ดำเนินการโดยผู้ให้บริการข้อมูล (Data providers) เพื่อรับประกันความแม่นยำของราคา โหนดเหล่านี้ใช้วิธีการคำนวณที่หลากหลาย เช่น ค่ามัธยฐาน (Median), ราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามเวลา (TWAP) และราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามสภาพคล่อง (LWAP) ซึ่งจะพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณสภาพคล่องและราคาเฉลี่ยในช่วงเวลาที่กำหนด


ผู้อยู่เบื้องหลัง Redstone

Jakub Wojciechowski: เป็นผู้ก่อตั้ง และดํารงตําแหน่งเป็น CEO ของ Redstone โดยเขาได้จบการศึกษามาจากมหาวิทยาลัย Warsaw University of Technology ทางด้าน วิทยาการคอมพิวเตอร์ ในก่อนหน้าที่ Jakub จะมาดํารงตําแหน่งที่ Redstone เขาเคยเป็น Chief Tehcnology Officer (CTO) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Alice SI 

Marcin Kazmierczak: สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเศรษฐศาสตร์วอร์ซอ (Warsaw School of Economics) ในปี 2563 โดยมีความเชี่ยวชาญด้าน E-Business และต่อมาได้ศึกษาต่อหลักสูตร MBA ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติการเมืองในไทเป และได้มีวิทยานิพนธ์ของเขาในหัวข้อเกี่ยวกับ “เทคโนโลยีบล็อกเชน: การอธิบายอย่างละเอียดและกรณีการใช้งานในเชิงธุรกิจ”

โทเคน RED คืออะไร?

RED Utility ของเครือข่าย RedStone โดยมีบทบาทหลักในการ กำกับดูแล (Governance) โปรโตคอล ซึ่งหมายความว่าผู้ถือโทเคนสามารถมีสิทธิ์เสนอและลงคะแนนเสียงในประเด็นสำคัญ เช่น การปรับพารามิเตอร์ของตลาด, การเพิ่มหรือลบสินทรัพย์ที่รองรับ, รวมถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างรางวัลหรือกลไกในระบบ


RED หน้าที่หลักในการรับประกันความสมบูรณ์และความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ถูกส่งเข้ามา ผู้ให้บริการข้อมูลจะต้องทำการ Stake โทเคน RED ไว้เป็นหลักประกัน ซึ่งเป็นแรงจูงใจทางเศรษฐกิจที่ทำให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการจะดำเนินการอย่างซื่อสัตย์ เพราะพฤติกรรมที่เป็นอันตรายใดๆ จะส่งผลให้โทเคนที่ Stake ไว้ถูกยึด (Slashing)


เพื่อเป็นการตอบแทนบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย ผู้ที่ทำการ Stake จะได้รับรางวัลเป็นส่วนแบ่งของค่าธรรมเนียมที่สร้างขึ้นโดยโปรโตคอล ที่สำคัญคือ รางวัลเหล่านี้จะจ่ายเป็นสกุลเงินคริปโตชั้นนำอย่าง ETH, BTC และ USDC ซึ่งสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและน่าดึงดูดใจสำหรับผู้เข้าร่วม


การกระจายของเหรียญ RED



ข้อมูลจากเว็บไซต์ CoinMarketCap และ Redstone Distribution ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2568 ระบุว่าโทเคน RED มี Total Supply ทั้งหมดอยู่ที่ 1,000,000,000 RED และมี Circulating Supply อยู่ที่ 280,000,000 RED


โทเคน RED มีการแจกจ่ายดังนี้:

  • 10.00%: การพัฒนาโปรโตคอล 
  • 24.30%: Ecosystem และผู้ให้บริการข้อมูล
  • 4.00%: Binance Launchpool 
  • 10.00%: ชุมชนและช่วงการเริ่มต้น
  • 48.30%: การเติบโตของชุมชน
  • 20.00%: ผู้ที่มีส่วนร่วมหลัก
  • 31.70%: ผู้สนับสนุนรุ่นแรก


การจัดสรรเชิงกลยุทธ์นี้ ควบคู่ไปกับกำหนดการทยอยปลดล็อกโทเคนที่ชัดเจน ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ RedStone ในการสร้างเครือข่าย Oracle ที่ยั่งยืนและขับเคลื่อนโดยชุมชน ซึ่งพร้อมที่จะกลายเป็นรากฐานที่สำคัญของอนาคตแบบกระจายศูนย์


ข้อมูลน่าสนใจด้านราคาของ RED


ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinmarketcap เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 เหรียญ RED มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) ที่ 77,344,418.3 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2,531,512,703.26 บาท


ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญ RED ซื้อขายกันอยู่ที่ราคาประมาณ 0.2762 ดอลลาร์ หรือประมาณ 9.04 บาทต่อ 1 RED โดย RED เคยทำราคาสูงสุด (All-time High) ที่ 1.46 ดอลลาร์ หรือประมาณ 47.68 บาท ต่อ 1 RED เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568


แหล่งอ้างอิง

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?

เยี่ยมเลย!

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ

ขออภัยที่เราช่วยเหลือไม่ได้!

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ

บอกให้เราทราบว่าเราจะปรับปรุงบทความนี้ได้อย่างไร!

เลือกเหตุผลอย่างน้อยหนึ่งข้อ
ต้องมีการตรวจสอบ CAPTCHA

ส่งข้อเสนอแนะแล้ว

เราขอขอบคุณในความพยายามของคุณ และจะพยายามแก้ไขบทความดังกล่าว