ในการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่พร้อมจะพลิกโฉมโลก Web3 ของเอเชีย Kaia ได้ถือกำเนิดขึ้นในฐานะบล็อกเชนสาธารณะ Layer 1 ที่เกิดจากการรวมตัวกันเชิงกลยุทธ์ของ Klaytn ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Kakao ยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตของเกาหลีใต้ และ Finschia ซึ่งเป็นบริการส่งข้อความ LINE ของญี่ปุ่น โดย Kaia มุ่งมั่นที่จะเป็นรากฐานสำหรับการนำ Web3 มาใช้ในวงกว้าง โดยใช้ประโยชน์จากฐานผู้ใช้จำนวนมหาศาลของบริษัทแม่ สำหรับผู้ที่อยากรู้และผู้ที่ชื่นชอบ Crypto มาเจาะลึกการทำงานที่โดดเด่นของ Kaia
Kaia คืออะไร?
Kaia คือ บล็อกเชน Layer 1 ประสิทธิภาพสูงระดับองค์กรที่ออกแบบมาเพื่อความเร็ว ทั้งยังมีความสามารถในการปรับขนาด (Scalability) และการเข้าถึง จุดกำเนิดของ Kaia อยู่ที่การรวมระบบนิเวศบล็อกเชนที่จัดตั้งขึ้นสองแห่ง ได้แก่ Klaytn และ Finschia ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่รวบรวมผู้ใช้รวมกันกว่า 250 ล้านคนจากแอปส่งข้อความยอดนิยม KakaoTalk และ LINE การรวมตัวเชิงกลยุทธ์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อรวมความสามารถของ Web3 เข้ากับอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่คุ้นเคยโดยตรง ช่วยลดอุปสรรคในการเข้าถึงสำหรับผู้ใช้ทั่วไปได้อย่างมาก สถาปัตยกรรมของ Kaia สร้างขึ้นบนกลไกฉันทามติแบบ Byzantine Fault Tolerant (BFT) ทำให้มั่นใจได้ถึงการทำธุรกรรมในเสร็จเรียบร้อยได้ในแบบทันทีและความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง
พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของ Kaia จากความร่วมมือระหว่างแพลตฟอร์มสนทนาอย่าง LINE และ Kakao
รากฐานที่แท้จริงของ Kaia อยู่ในพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระหว่าง Kakao และ LINE โดยการลงทุนบนบล็อกเชน โดย Kakao ยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตของเกาหลีใต้ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแอปส่งข้อความ KakaoTalk ที่เป็นกำลังหลักที่อยู่เบื้องหลังบล็อกเชน Klaytn ในทำนองเดียวกัน LINE บริการส่งข้อความชื่อดังของญี่ปุ่น ได้ริเริ่มและพัฒนาบล็อกเชน Finschia เป็นที่มาของการรวมตัวกันครั้งสำคัญสู่การเป็น Kaia จากการควบรวมกิจการครั้งสำคัญระหว่าง Klaytn Foundation และ Finschia Foundation การรวมตัวนี้ไม่ใช่แค่การรวมเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นการจัดแนวเชิงกลยุทธ์ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้ประโยชน์จากฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ของ KakaoTalk และ LINE มีเป้าหมายที่จะทำให้การผสานรวมกับแพลตฟอร์มการส่งข้อความทั้งสองนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น ด้วยเอกลักษณ์นี้ทำให้ Kaia สามารถเข้าถึงผู้ใช้ Web3 ที่มีศักยภาพกว่า 250 ล้านคนทั่วเอเชียได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน วิสัยทัศน์หลักคือการฝังฟังก์ชัน Web3 อย่างราบรื่นเข้ากับประสบการณ์การส่งข้อความในชีวิตประจำวัน ทำให้แอปพลิเคชันและบริการกระจายศูนย์ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้เหมือนการส่งข้อความ ซึ่งจะช่วยผลักดันการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในวงกว้างได้อย่างมาก
คุณสมบัติเด่นของ Kaia
- ประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว: Kaia มีเวลาการสร้างบล็อกที่น่าประทับใจเพียง 1 วินาที และความสามารถในการประมวลผลธุรกรรมสูงสุด 4,000 รายการต่อวินาที (TPS) อัตราการประมวลผลที่สูงและการสิ้นสุดธุรกรรมในทันทีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์และการทำงานในระดับองค์กร
- ค่าธรรมเนียมธุรกรรมต่ำ: ค่าธรรมเนียมธุรกรรมบน Kaia นั้นต่ำกว่าอย่างมาก ประมาณหนึ่งในสิบของ Ethereum ทำให้เอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับนักพัฒนาและผู้ใช้ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติการมอบสิทธิ์ค่าธรรมเนียม ทำให้แอปพลิเคชันสามารถครอบคลุมค่าธรรมเนียมธุรกรรมของผู้ใช้ ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้
- ความเข้ากันได้กับ EVM: ความเข้ากันได้เต็มรูปแบบกับ Ethereum Virtual Machine (EVM) ทำให้นักพัฒนาสามารถย้าย Smart contract ที่ใช้ Solidity ที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดาย และใช้ประโยชน์จากเครื่องมือการพัฒนาที่คุ้นเคย ซึ่งช่วยเร่งการพัฒนา dApp
- การทำงานร่วมกับ Web2: จุดแข็งหลักของ Kaia คือการรวมเข้ากับแพลตฟอร์มส่งข้อความ Kakao และ LINE อย่างลึกซึ้ง ข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนใครนี้ช่วยให้เข้าถึงผู้ใช้ Web3 ที่มีศักยภาพหลายร้อยล้านคนโดยตรง ทำให้การโต้ตอบบล็อกเชนราบรื่นผ่านอินเทอร์เฟซที่คุ้นเคย
- ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง: Kaia ใช้กลไกฉันทามติ Istanbul BFT ที่ปรับปรุงแล้ว ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยของเครือข่ายที่แข็งแกร่งผ่านคุณสมบัติต่างๆ เช่น การตรวจสอบความถูกต้องแบบ MultiSig การเลือกผู้เสนอแบบสุ่มผ่าน Verifiable Random Function (VRF) และการแยกคีย์ผู้ตรวจสอบความถูกต้องและคีย์รางวัล
ระบบนิเวศของ Kaia
ระบบนิเวศของ Kaia ได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งเสริมภูมิทัศน์ที่สดใสสำหรับ dApps ต่างๆ โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับ
- การเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi): ช่วยให้บริการทางการเงินมีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำ
- เกมและ NFT: รองรับเกมบล็อกเชนที่น่าสนใจและตลาด NFT
- โซลูชันสำหรับองค์กรและการชำระเงิน: จัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อถือได้สำหรับธุรกิจในการปรับใช้งานบนบล็อกเชน
- แอปพลิเคชันโซเชียลและชุมชน: อำนวยความสะดวกในรูปแบบใหม่สำหรับการโต้ตอบระหว่างกันและการสร้าง Content ที่หลากหลาย
Line Dapp Portal คืออะไร?
LINE Dapp Portal เป็นโครงการสำคัญของ LINE NEXT Inc. (บริษัท Web3 ของ LINE) ที่มุ่งนำแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (dApps) มาสู่ผู้ใช้จำนวนมหาศาลของแอปส่งข้อความ LINE โดยตรเพื่ทำหน้าที่เป็นประตูหรือศูนย์กลางภายใน LINE Messenger ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหา เข้าถึง และโต้ตอบกับบริการ Web3 ต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแยกต่างหาก
โดย "Mini Dapps" นี้ทำงานบนเครือข่ายบล็อกเชน Kaia เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนสำหรับ dApps เหล่านี้ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นกระเป๋าเงินในแอป ผู้ใช้สามารถจัดการสินทรัพย์เสมือนจริง ได้รับรางวัล และแลกเปลี่ยน NFT ได้โดยตรงผ่านกระเป๋าเงินที่เชื่อมโยงกับบัญชี LINE ของตน
สำหรับ Dapps บน Mini Dapps นี้ยังมีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็น เกม โซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มให้ความรู้ สุขภาพ และเครื่องมือ DeFi ซึ่งผู้พัฒนาได้ตั้งเป้าหมายภายในปี 2568 นี้จะมีโครงการและแอปต่างๆ มากกว่า 1,000 รายการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำบริการกระจายศูนย์มาใช้ในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเอเชียที่ LINE ที่ตัวแอปพลิเคชันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
ใครคือผู้ก่อตั้ง?
Kaia เป็นผลมาจากการ ควบรวมระหว่าง Klaytn Foundation และ Finschia Foundation ในขณะที่ Foundation เหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจาก Kakao และ LINE ตามลำดับ แต่ Kaia กำกับดูแลโดยสภาที่หลากหลาย บุคคลที่มีความสำคัญได้แก่ Eddie Kim และ Ashwani ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกระจายอำนาจและการวิเคราะห์ข้อมูลของ Klaytn มีส่วนสำคัญในการเป็นผู้นำวิสัยทัศน์และการพัฒนาของ Kaia โดยนำประสบการณ์อันกว้างขวางจาก Web2 สู่โลก Web3
KAIA Token คืออะไร?
โทเคน KAIA เป็น Native Token สำหรับระบบนิเวศ Kaia ทำหน้าที่หลากหลาย
- ค่าธรรมเนียมธุรกรรม: KAIA ใช้เพื่อชำระค่าธรรมเนียมแก๊ส อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมและการดำเนินการ Smart Contract
- การ Stake: ผู้ถือโทเคนสามารถ Stake KAIA เพื่อเข้าร่วมในกลไกฉันทามติของเครือข่าย ซึ่งมีส่วนช่วยในความปลอดภัยและได้รับรางวัล
- การกำกับดูแล: KAIA ที่ Stake ไว้จะให้สิทธิ์ในการลงคะแนน ทำให้ผู้ถือสามารถเข้าร่วมในการตัดสินใจการกำกับดูแลบนเชน ซึ่งส่งผลต่อการอัปเกรดและข้อเสนอของเครือข่าย
- การโอนมูลค่าระบบนิเวศ: KAIA มีบทบาทสำคัญในการจูงใจทางเศรษฐกิจและรางวัลภายในระบบนิเวศของ Kaia ซึ่งสนับสนุนผู้เข้าร่วมเครือข่ายและโครงการริเริ่มการพัฒนาต่างๆ
การจัดสรรโทเคนและ Tokenomics
Tokenomics ของ KAIA ได้รับการออกแบบมาเพื่อความยั่งยืนในระยะยาวและการเติบโตของระบบนิเวศ อัตราเงินเฟ้อเริ่มต้นต่อปีถูกกำหนดไว้ที่ 5.2% โดย KAIA ที่ออกใหม่และค่าธรรมเนียมธุรกรรม (รางวัลบล็อก) จะถูกจัดสรรดังนี้:
- 50% ให้กับผู้ตรวจสอบความถูกต้องและชุมชน: สิ่งนี้ช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมและความปลอดภัยของเครือข่าย โดย 20% จัดสรรให้กับผู้สร้างบล็อก และ 80% เป็นรางวัลการ Stake
- 25% ให้กับ Kaia Ecosystem Fund (KEF): กองทุนนี้ทุ่มเทให้กับการส่งเสริมการเติบโตของระบบนิเวศ Kaia ผ่านการลงทุน การให้ทุน และการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์
- 25% ให้กับ Kaia Infrastructure Fund (KIF): กองทุนนี้สนับสนุนการบำรุงรักษาและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลักของบล็อกเชน Kaia อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ Kaia ยังใช้โมเดลการเผาโทเคนสามชั้นเพื่อจัดการอุปทานโทเคน โดยเผาตามธุรกรรม (ส่วนหนึ่งของค่าธรรมเนียมจะถูกเผา), การเผามูลค่าสูงสุดที่สกัดได้ (MEV) และการเผาตามธุรกิจ (กระตุ้นให้บริการระบบนิเวศดำเนินการเผา KAIA) โมเดล Tokenomics ที่ครอบคลุมนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนด้วยตนเองและเพิ่มมูลค่าให้กับ Kaia
ข้อมูลน่าสนใจด้านราคาของ KAIA
ข้อมูลจากเว็บไซต์ CoinMarketCap เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เหรียญ KAIA มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market cap) ที่ 902,359,198 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 29,497,342,973 บาท
ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญ KAIA ซื้อขายกันอยู่ที่ราคาประมาณ 0.1488 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4.86 บาทต่อ 1 KAIA โดย KAIA เคยทำราคาสูงสุด (All-time high) ที่ 0.415 ดอลลาร์ หรือประมาณ 13.58 บาท ต่อ 1 KAIA เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568
แหล่งอ้างอิง
บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
เยี่ยมเลย!
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ
ขออภัยที่เราช่วยเหลือไม่ได้!
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ
ส่งข้อเสนอแนะแล้ว
เราขอขอบคุณในความพยายามของคุณ และจะพยายามแก้ไขบทความดังกล่าว